F1 22: รถสเปคใหม่ ปัญหาสเปคเดิม?

เรียกว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ตชั้นนำอย่าง “รถสูตรหนึ่ง” หรือ “ฟอร์มูล่าวัน” ที่หลังจากประกาศทำซีรียส์แนวเรียลลิติ้ปนดรามาอย่าง “Drive to Survive” กับทาง Netflix แล้วก็สามารถเรียกคะแนนจากคนดูหน้าใหม่ได้อย่างท้วมท้น ประกอบกับดรามาที่ Abu Dhabi Grand Prix สนามสุดท้ายเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมาที่ทำให้ดาวรุ่งชาวดัตช์อย่าง Max Verstappen พลิกแซงตำนานแชมป์ 7 สมัยอย่าง Sir Lewis Hamilton ไปคว้าตำแหน่งแชมป์โลกสมัยแรกได้อย่างสุดเร้าใจ สำหรับฤดูกาล 2022 นี้ก็เลยเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับแฟน ๆ มือใหม่ที่จะได้เข้ามาทำความรู้จักกับกีฬาประเภทนี้กัน

นอกจากเรื่องราวสุดดรามาแล้ว ปี 2022 ก็ถือเป็นปีสำคัญอีกปีสำหรับวงการเอฟ 1 เนื่องจากเป็นปีที่ทางสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA ได้ออกกฎใหม่ในการสร้างรถเอฟ 1 เพื่อทำการ “รีเซ็ต” ความก้าวหน้าและบังคับให้ทีมทั้ง 10 ทีมต้องออกแบบรถขึ้นมาใหม่ กฎชุดปี 2022 นี้ถือเป็นกฎที่เรียกได้ว่าล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจะเน้นไปที่การเปลี่ยนโครงสร้างด้านอากาศพลศาสตร์เพื่อทำให้รถสามารถแข่งกันได้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้หน้าตาของรถเปลี่ยนไปจากปีก่อน ๆ มามาก

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันในปีที่แล้วก็คือการค่ายเกมสายสูบอย่าง Electronic Arts หรือ EA ได้หวนกลับมาผลิตเกมให้กับแฟรนไชส์เอฟ 1 อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานเกือบ ๆ 20 ปี โดยเข้าซื้อกิจการของผู้ผลิตอิสระอย่าง Codemasters ด้วยเงินทุนเหยียบ 4 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ก่อนจะปล่อยผลงานอย่าง F1 2021 ออกมาพร้อมโหมดเนื้อเรื่องที่ใช้ชื่อว่า Braking Point ซึ่งกระแสตอบรับของ F1 2021 ก็ถือว่าน่าพึงพอใจ สามารถวางขายผ่าน Steam ไปได้เกือบ 1 ล้านชุดและได้รับคะแนนตอบรับในเชิงบวกจากผู้เล่นถึง 85.3% (ข้อมูลจาก https://vginsights.com/game/1134570 ) แต่ก็มีกระแสจากผู้เล่นในเว็บไซต์ให้คะแนนชื่อดังอย่าง Metacritic ออกมาว่าเกมแทบจะไม่เปลี่ยนไปจาก F1 2020 เลยในเชิงเกมเพลย์

ดังนั้น เมื่อยุคสมัยใหม่ของการแข่งรถได้มาถึงในปี 2022 แฟน ๆ หลายคน ทั้งแฟน ๆ เอฟ 1 ในชีวิตจริงและคอเกมแข่งรถที่รอติดตามผลงานของทาง EA ก็อดรอไม่ได้ที่จะได้ยลโฉมเกมใหม่ ซึ่ง F1 22 ก็ได้เปิดตัวบน Steam เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจุดขายหลักของเกมก็คือ (1) รถสเปคใหม่จากกฎชุดใหม่ประจำปี 2022 (2) เพิ่มฟีเจอร์รถซูเปอร์คาร์ + Race Day + F1 Life เพื่อสร้างตัวละครของเราเอง สร้างห้อง สร้างบ้านให้เหมือนว่าเราเป็นนักขับจริง ๆ (3) สนามแข่งใหม่อย่าง Miami International Autodrome บวกกับสนามแข่งปัจจุบันที่ผ่านการอัปเดตระหว่างปี (4) ฟีเจอร์ VR เพื่อเสริมความเสมือนจริง ซึ่งฟีเจอร์ VR เป็นสิ่งที่ผลักให้คอเกมหลายคนกดเงิน 1,599 บาทซื้อมาลองกันในทันที

แต่ ตามสุภาษิตที่เขาว่า “EA จะทำลายทุกอย่างที่มือจับต้องได้” F1 22 กลับเต็มไปด้วยบั๊ก ฟีเจอร์รถแข่งและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนมีไว้งั้น ๆ ไม่ได้เพิ่มอรรถรสอะไรให้กับการเล่นเกมมากนัก แถมยังมีปัญหาเรื่องความ “ดุดัน” ของ AI นักขับ หรือการที่ตัวเกมก็ยังไม่มีฟีเจอร์ “ธงแดง” ในระหว่างแข่ง (ธงแดงจะโบกเมื่อมีอุบัติเหตุร้ายแรงที่ทำให้ต้องหยุดแข่งทันที) หรือฟีเจอร์เปลี่ยนยางโฉมใหม่ที่กลับไม่มีตัวอย่างหรือคำแนะนำในการใช้งาน หรือแม้กระทั่งการที่ตัวเกมยังไม่รองรับระบบเมาส์เสียด้วยซ้ำ จนผู้เล่นหลาย ๆ คนออกมาแสดงความคิดในแบบเดียวกันคือ “EA เอาอีกแล้ว” หรือ “เงิน 60 เหรียญที่ไร้ประโยชน์ที่สุดที่เคยใช้ไป” อย่างไรก็ดี แม้จะมีปัญหาในด้านอื่น ๆ แล้ว ตัวเกมในด้านการแข่งรถก็ดูจะไม่มีปัญหาชัดเจนมากนัก ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจเมื่อเทียบกับแฟรนไชส์กีฬาอื่น ๆ จากค่าย EA เช่น FIFA ที่เกมเพลย์ดูจะเก็บไว้ให้นักกีฬาอีสปอร์ตได้แข่งขันกันเท่านั้น

หวังว่าทาง EA จะทำการออก Patch มาเพื่อแก้ไขตัวเกมในเร็ววัน และนำความผิดหวังของคอเกมไปรับฟังเพื่อปรับปรุงแฟรนไชส์ในปี 2023 ต่อไป

F1 22 วางขายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม Steam ในราคา 1,599 บาทสำหรับรุ่นธรรมดาและ 2,199 บาทสำหรับรุ่น Champions Edition ซึ่งจะมีเงินกับตำนานแถมให้สำหรับผู้เล่นโหมด MyTeam แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง หรือถ้าหากว่าใครไม่อยากจะเล่นเอง ก็สามารถรอดูนักกีฬาอีสปอร์ตชั้นนำมาฟาดฟันกันบนสนามแข่งได้ในรายการ 2022 Formula One Esport Series ที่น่าจะจัดขึ้นในช่วงเวลาปลายปีนี้ หรือจะไปหาดูคอเกมสายคอนเทนต์บน YouTube อย่าง Aarava, Tiametmarduk, หรือแชมป์อีสปอร์ตประจำปี 2021 อย่าง Jarno Opmeer ได้เช่นกัน